มัทไธส์ เดอ ลิกต์ ปราการหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ประทับใจบุคลิกตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมของเฮดโค้ช รูเบน อาโมริม ที่แสดงความรู้สึกผ่านคำพูดแบบไร้การประดิษฐ์ ซึ่งมันอาจแปลกสำหรับวงการฟุตบอลผู้ดีอังกฤษ
อาโมริม คนโปรตุกีสย้ายจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน มารับคุม ‘ปีศาจแดง’กลางซีซั่น เคยอ่อนใจกับผลงานทีมจนนิยามว่า – แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดที่แย่สุดในประวัติศาสตร์ –
เคยผิดหวังกับการสนับสนุนจากฝ่ายบริหารและดราม่าองค์กรจนขู่ลาออกหากอุปสรรคดังกล่าวไม่ถูกสะสาง
และล่าสุดหลังแพ้รวมดารา อาเซียน 0-1 ในทัวร์ โพสต์-ซีซั่นก็บอกว่า ลูกทีมกาก
แค่สามดอกนี้ก็แรงชนิดไม่เคยมีหัวหน้าผู้ฝึกสอน แมนฯ ยูไนเต็ด คนไหนเคยหลุดพูดจากปากมาก่อน แต่ เดอ ลิกต์ มองว่าเป็นเรื่องดีที่กุนซือโปรตุกีสพูดมาตรงๆ เพราะบุคลิกขวานผ่าซากแบบนั้นคนดัตช์แบบเขาก็เป็น
“ผมมาจากฮอลแลนด์ ดังนั้นพูดตรงๆแบบนั้นผมชอบ” การเปิดปากผ่าน ‘บีบีซี สปอร์ต’
“ก็สามารถเข้าใจได้ทำไมสื่อมวลชนเหวอ เพราะปกติไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น”
“แต่ผมคิดว่าคุณสามารถหาจุดที่พอใจได้ ในที่สุดก็มีใครสักคนกล้าพูดความในใจออกมา เขาพูดสิ่งที่คิดและบอกเล่เรื่องจริง”
“ส่วนตัวก็ซาบซึ้งแกระหว่างที่เราได้มีโอกาสคุยกันส่วนตัว มันทำให้ผมรู้สึกว่าสามารถไว้ใจ รูเบน ขณะเดียวกันแกก็เชื่อใจผมได้”
“ผมมีประสบการณ์ร่วมงานหัวหน้าผู้ฝึกสอนหลายคน ซึ่งแกคือหนึ่งในคนที่นักเตะอย่างเราสามารถคุยด้วยง่ายสุด”
“อาโมริม จะลงรายละเอียดก่อนเซ็นนักเตะใหม่เข้ามา ประการแรกพิจารณาจากวัฒนธรรมองค์กร, จุดไหนจำเป็นต้องเปลี่ยน และสามารถทำอย่างไรเราจึงจะพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นทีมฟุตบอลที่ดีกว่าเดิม”
“ก็ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าคงพอเห็นรูปเห็นร่างมากขึ้น”
“ผมคิดว่าแกต้องการสร้างทีมที่ผู้เล่นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน, สู้เพื่อกันและกัน รวมถึงใส่สุดพลังที่ตัวเองมี”
“บางทีก่อนหน้านั้น คุณอาจมีผู้เล่นที่ดีสุดในมือ แต่คุณไม่ได้เป็นทีมเดียวกัน”
ตีความระหว่างบรรทัดคือ ยูไนเต็ด ขาดความสามัคคี, แบ่งก๊กแบ่งเหล่า และบรรดาแข้งที่เข้ามาในยุคอดีตผจก.ทีม เอริก เทน ฮาก ไม่กินเส้นพวกขาใหญ่เดิม